แนวคิดเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมแบบ OOP (Object-Oriented Programming)
ในช่วงปลายของยุคของการเขียนโปรแกรมเชิงโครงสร้าง งานของโปรแกรมในยุคสมัยนั้นเริ่มจะมีการจัดการข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ เช่น งานทะเบียน งานวิจัยที่เก็บข้อมูลหลายๆครั้งนำมาเทียบกัน การทำเกมก็มีการควบคุมข้อมูลต่างๆเพื่อนำไปคำนวนและแสดงผล เมื่อมีข้อมูลซับซ้อนขึ้น ทำให้เกิดการสร้างกลุ่มก้อนข้อมูลขึ้นมาใช้ในโปรแกรม ซึ่งการทำงานกับกลุ่มก้อนข้อมูลที่มีระเบียบเหล่านี้ทำให้การเขียนโปรแกรม เหมาะสมกับงาน จึงได้มีการพัฒนารูปแบบการเขียน จากที่ให้การทำงานของโปรแกรมเป็นตัวควบคุมกลุ่มก้อนข้อมูล ก็ให้กลุ่มก้อนข้อมูลเหล่านั้นเก็บความสามารถในการควบคุมข้อมูลเอาไว้ในตัว มันเอง กลุ่มก้อนข้อมูลในยุคของการเขียนโปรแกรมเชิงโครงสร้างก็คือ struct ซึ่งจะเป็นการเขียนโครงสร้างของข้อมูลเป็นวัตถุอย่างคร่าวๆ โดยเป็นการเขียนว่า วัตถุชิ้นหนึ่ง จะมีคุณสมบัติอะไรอยู่ในตัวมันบ้าง และก็สร้างวัตถุขึ้นมาจาก struct เพื่อใช้ในโปรแกรม ในโปรแกรมก็จะมีการเขียนฟังค์ชั่นต่างๆเพื่อการควบคุมวัตถุที่จะสร้างมาจาก สตรัคต์เหล่านั้น การพัฒนาจาก struct ขึ้นมาเป็น class ก็เป็นการนำเอาฟังค์ชั่นการทำงานทั้งหมดเหล่านั้นไปเก็บไว้ในตัววัตถุ และเรียกใช้ออกมาจากตัววัตถุ หลังจากนั้นก็มีการสร้างแนวคิดของการเขียนโปรแกรมแบบ OOP ขึ้นมา
หลักการ ของ OOP (ที่เรียกกันว่า Object Oriented Concept หรือ OOC) คือ การมองหน่วยต่าง ๆ ของภาษาโปรแกรม (Entity) ให้เป็นวัตถุ (Object) ดั่งเช่นที่มนุษย์ปุถุชนธรรมดามองสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันเป็นวัตถุ วัตถุ (Object) จะถูกสร้างขึ้นจาก class (หมายถึงแม่แบบ)
หมายถึง กำหนดว่า จะมีรูปแบบของ "มนุษย์ผู้ชาย" และ กำหนดให้มี Object "นาย ก." เป็น "มนุษย์ผู้ชาย" ในทางโปรแกรมจะถือว่า Object 'ก.' เป็น Instance(สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาจากแม่แบบ) ของ Class "มนุษย์ผู้ชาย"
เครดิต by .....http://bu.lpc.rmutl.ac.th/naravit/begin-programming/oop/ch6_OOP.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น