วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แนวคิดเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมแบบ OOP

แนวคิดเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมแบบ OOP (Object-Oriented Programming)
ในช่วงปลายของยุคของการเขียนโปรแกรมเชิงโครงสร้าง งานของโปรแกรมในยุคสมัยนั้นเริ่มจะมีการจัดการข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ เช่น งานทะเบียน งานวิจัยที่เก็บข้อมูลหลายๆครั้งนำมาเทียบกัน การทำเกมก็มีการควบคุมข้อมูลต่างๆเพื่อนำไปคำนวนและแสดงผล เมื่อมีข้อมูลซับซ้อนขึ้น ทำให้เกิดการสร้างกลุ่มก้อนข้อมูลขึ้นมาใช้ในโปรแกรม ซึ่งการทำงานกับกลุ่มก้อนข้อมูลที่มีระเบียบเหล่านี้ทำให้การเขียนโปรแกรม เหมาะสมกับงาน จึงได้มีการพัฒนารูปแบบการเขียน จากที่ให้การทำงานของโปรแกรมเป็นตัวควบคุมกลุ่มก้อนข้อมูล ก็ให้กลุ่มก้อนข้อมูลเหล่านั้นเก็บความสามารถในการควบคุมข้อมูลเอาไว้ในตัว มันเอง กลุ่มก้อนข้อมูลในยุคของการเขียนโปรแกรมเชิงโครงสร้างก็คือ struct ซึ่งจะเป็นการเขียนโครงสร้างของข้อมูลเป็นวัตถุอย่างคร่าวๆ โดยเป็นการเขียนว่า วัตถุชิ้นหนึ่ง จะมีคุณสมบัติอะไรอยู่ในตัวมันบ้าง และก็สร้างวัตถุขึ้นมาจาก struct เพื่อใช้ในโปรแกรม ในโปรแกรมก็จะมีการเขียนฟังค์ชั่นต่างๆเพื่อการควบคุมวัตถุที่จะสร้างมาจาก สตรัคต์เหล่านั้น การพัฒนาจาก struct ขึ้นมาเป็น class ก็เป็นการนำเอาฟังค์ชั่นการทำงานทั้งหมดเหล่านั้นไปเก็บไว้ในตัววัตถุ และเรียกใช้ออกมาจากตัววัตถุ หลังจากนั้นก็มีการสร้างแนวคิดของการเขียนโปรแกรมแบบ OOP ขึ้นมา

หลักการ ของ OOP (ที่เรียกกันว่า Object Oriented Concept หรือ OOC) คือ การมองหน่วยต่าง ๆ ของภาษาโปรแกรม (Entity) ให้เป็นวัตถุ (Object) ดั่งเช่นที่มนุษย์ปุถุชนธรรมดามองสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันเป็นวัตถุ วัตถุ (Object) จะถูกสร้างขึ้นจาก class (หมายถึงแม่แบบ)

หมายถึง กำหนดว่า จะมีรูปแบบของ "มนุษย์ผู้ชาย" และ กำหนดให้มี Object "นาย ก." เป็น "มนุษย์ผู้ชาย" ในทางโปรแกรมจะถือว่า Object 'ก.' เป็น Instance(สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาจากแม่แบบ) ของ Class "มนุษย์ผู้ชาย"


เครดิต by .....http://bu.lpc.rmutl.ac.th/naravit/begin-programming/oop/ch6_OOP.htm

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

object ของสุนัข.....



A real world dog as a software object

วันพฤหัสบดีที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2552

มารู้จัก_เว็บชื่อดังของเกาหลี NAVER

>>> www.naver.com<<<

เป็นเว็บที่คนเกาหลีใช้บริการ Search Engine มากที่สุด

คล้ายๆกับ sanook ของไทย แต่คิดว่า naver ดีกว่านะ ถ้าเทียบแล้ว - -*

แล้วคนเกาหลีเค้าก็เป็นพวกชาตินิยม

google เค้าไม่ค่อยใช้กันหรอก ใช้ naver เนี่ยแหละ


ที่เอามาแนะนำ เพราะรู้สึกว่าเป็นเว็บที่มีประโยชน์ สำหรับคนรักเกาหลี และเรียนเกาหลี


เอาล่ะ

เราจะมาดูที่เมนู ตอนเข้าเว็บหน้าแรกกันก่อนเลย

นี่คือหน้าตาของเมนู

Free Image Hosting at allyoucanupload.com

คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพใหญ่

1. อีเมล์ ( 메일เม-อิล ) ต้องสมัครสมาชิกก่อน ถึงจะใช้อีเมล์ @naver.com ได้

2. คาเฟ่ ( 카페 คา-เพ ) เป็นแหล่งรวมคีย์เวิร์ดสำหรับหาข้อมูลที่ต้องการ

3. บล็อก - Blog ( 블로그 บึล-โล-กือ ) แหล่งรวมบล็อกของคนเกาหลีใน NAVER

4. แถบค้นหา ใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการลงไป แล้วกด enter หรือกดปุ่มสีเขียวด้านขวาของแถบค้นหา (검색 คอม-แซก)

5. ข้อมูลความรู้ ( 전문자료 ชอน-มุน-จา-รโย ) รวบรวมบทความและข้อมูลที่เป็นความรู้ และมีประโยชน์ แต่ไม่ได้อ่านฟรีนะจ๊ะ ต้องจ่ายตังด้วยเน้อ ถึงจะอ่านหรือเก็บไว้ได้

6. หนังสือ ( 책 แช็ก ) แนะนำหนังสือดี หนังสือใหม่ บอกรายละเอียด และสั่งซื้อผ่านเว็บได้

7. พจนานุกรม ( 사전 ซา-จอน ) ชอบดิกของเว็บ NAVER มากๆเลย แม้ว่าจะไม่มีเกาหลี-ไทยก็ตาม - -* แต่มีเกาหลี-อังกฤษนะ ศัพท์ก็เยอะดีใช้ได้ ค้นหาง่าย

8. ภูมิภาค ( 지역 ชี-ยอก ) รวบรวมข้อมูลและรูปภาพภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม ภูมิอากาศ อาหาร การท่องเที่ยว ของแต่ละภาค

9. ข่าว ( 뉴스 นยู-ซือ ) แหล่งข่าวแหล่งใหญ่ ทั้งในและนอกประเทศ จากหลายสำนักข่าว

10. เว็บไซต์ ( 사이트 ซา-อี-ทือ ) บริการค้นหาเว็บไซต์

11. รูปภาพ ( 이미지 อี-มี-จี ) บริการค้นหารูปภาพ

12. มุมเด็ก ( 쥬니버 ชู-นี-บอ ) เกม การ์ตูน การเรียน อะไรที่เกี่ยวกะเด็กๆ และเป็นมุมที่เหมาะกะเราที่ซู้ด น่ารักมั่กๆ

.